ขั้นตอนการทำงานตลอดภาคการศึกษา
วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553
097 อโนชา
ขั้นตอนการทำงานตลอดภาคการศึกษา
วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553
072 นนตรา
Size in game
ขั้นตอนการทำงานตลอดภาคการศึกษา
O73นฤชา ( suang sawi )1
ขั้นตอนการทำงานตลอดภาคการศึกษา
1. รวบรวม และ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จำทำได้ด้านต่างๆ ให้ครบถ้วน และเข้าใจ
2. วิเคราะห์ แยกแยะ และจำแนกงานออกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการออกแบบ และการจัดการองคืกร
3. ออกแบบร่าง โดยรวมทั้งหมด
4. ปรับแก้ และ พัฒนาให้มีความเหมาะสมที่สุด
5. พัฒนาในด้านรายละเอียดของแต่ละการออกแบบ
6. ปรับปุงและแก้ไขอีกครั้งเพื่องานที่สมบูรณ์ที่สุด
พัฒนาการ และสิ่งที่ได้เรียนรู้
1. ได้ฝึกการวิเคราะห์ ดึงจุดเด่น และ เข้าใจกับสิ่งที่เรากำลังจะทำงานออกแบบออกมา
2. พัฒนาการทางด้านการออกแบบที่เป็นชุด หรือเป็นพวกเดียวกัน
3. สามารถทำงานออกแบบผ่านโปรแกรมต่างๆในคอมพิวเตอร์ได้คล่องขึ้น และได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆเพิ่มขึ้น
4. เข้าใจถึงระบบการพิมพ์และการแยกสีต่างๆ
5. เรียนรู้ และ เข้าใจการออกแบบบรจุภัณฑ์มากขึ้น
6. สามารถควบคุมงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสื่อความหมาย หรือแสดงออกถึงเอกลักษณืองค์กรไดเดีขึ้น
7. รู้จักการหาข้อมูลที่เหมาะสม และ มีประโยชน์ในงานออกแบบ จากที่ต่างๆ วิธีต่างๆ
ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน
1. ความไม่ลงตัวของกราฟฟิกบนบรรจุภัณฑ์บางประเภท
2. การแบ่งเวลาในการทำงานแต่ละชิ้นผิดพลาด
3. ละเลยรายละเอียดสำคัญต่างๆ เช่นตัวโลโก้ใหม่ ที่ควรจะไปอยู่ในทุกๆที่เป็นต้น
4. ไม่สามารถไปสถานที่จริงเพื่อให้หารออกแบบมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่านี้ได้
แนวทางการแก้ไข
1.ปรึกษาอาจารย์ เพื่อน และ ครอบครัว เพื่อจะได้รับความเห็นในมุมต่างๆมาพัฒนางานให้ดีที่สุด
2.ตัดงานออกแบบบางประเภทที่คาดว่าจะไม่ได้ทำ และ ที่ไม่จำเป็นออกก่อน เพื่อไปพัฒนาต่อในโปรเจคถัดไป
3.แก้ไข สังเกต และ ใส่ใจในรายละเอียดของงานออกแบบให้มากกว่านี้ เพื่องานออกแบบที่มีประสิทธิภาพถูกใจผู้บริโภค
4.ศึกษาจากรูปถ่าย สภาพภูมิศาสตร์ แบละคำบอกเล่าของคนพื้นที่ รวมั้งกลุ่มเป้าหมายให้ได้ข้อมูลมากที่สุด
5.ฝึกฝน และ พัฒนาต่อไป
วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553
086 มินตรา
"Magic Land"
ขั้นตอนการทำงานตลอดภาคการศึกษา
1. หาข้อมูลเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ดีไซน์ ในหลายๆรูปแบบ รวมทั้งสีที่ใช้
2. คิดเนื้อเรื่อง, วางโครงเรื่อง และเขียนเรื่องย่อ รวมทั้งแก้ไขเนื้อเรื่องให้กระชับ
3. ออกแบบคาแรคเตอร์ดีไซน์ ปรับปรุงและแก้ไขจนกว่าจะหาลายเส้นที่เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง
4. ลงมือทำงานจริงทั้งการพิมพ์เนื้อเรื่องและวาดภาพประกอบ
พัฒนาการในด้านใดบ้าง
1. สามารถวาดการแสดงออกท่าทางและอารมณ์ของตัวละครในลายเส้นที่ออกแบบใหม่ได้
2. พัฒนาด้านการลงสีในรูปแบบที่สดใส
3. รู้จักควบคุมการใช้ในการลงสี
4. ได้คาแรกเตอร์ดีไซน์ลายเส้นใหม่ไว้ใช้ในอนาคต
ได้เรียนรู้เพิ่มเติม
1. การเขียนนิยายจำเป็นที่จะต้องใช้ประสบการณ์จากการอ่านให้มาก เพื่อนำมาเรียบเรียงคำในแต่ละประโยค ให้สละสลวย เข้าใจได้ง่าย สามารถที่จะอ่านต่อได้เรื่อยๆโดยไม่ติดขัด
2.ได้ใช้สีแบบที่ไม่เคยลองเช่นสีแสตมป์เป็นสีที่สดสามารถใช้ได้ง่ายแต่คุมสีค่อนข้างยากเนื่องจากสีสดเกินไปนิด
3.การแทรกภาพ Spot ลงในเนื้อเรื่อง ต้องมีการจัดว่างให้เหมาะสมกับเนื้อหาและเนื้อเรื่องที่พิมพ์
ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน
1.ความเครียดในการทำงานทำให้การคิดงานล่าช้า
2.การแบ่งเวลาในการทำงาน
3.ความไม่ถนัดในเครื่องมือและลายเส้นที่ทดลองใหม่
4.การคุมสีของภาพไม่เป็นไปตามที่ใจนึกเพราะยังไม่ชำนาญ
5.การเขียนเนื้อเรื่องที่ยังไม่สามารถให้อ่านได้ไหลลื่นพอ
แนวทางการแก้ไข
1.ปรึกษางานกับเพื่อนให้ช่วยวิจารณ์ผลงาน
2.เนื่องจากได้รับคำวิจารณ์จากเพื่อนว่าภาพประกอบในงานจริง คล้ายSketch จึงเปลี่ยนจากภาพขาวดำมาเป็นสีทั้งหมด
3.หมั่นดูการออกแบบคาแรกเตอร์ดีไซน์ให้มากขึ้น
4.ฝึกวาดคาแรกเตอร์ดีไซน์ให้มากขึ้นและบ่อยขึ้น
5.ฝึกการลงสีให้บ่อยขึ้น
6.หมั่นอ่านนิยายให้มากขึ้นเพื่อให้รู้ถึงจังหวะการวางโครงเรื่องการใช้คำ ความเหมาะสม ปริศนา ฉากไคลแมกต์ของเรื่อง
_______________________________
ก่อนหน้านี้ฝากเพื่อส่งค่ะ แต่เพื่อนบอกว่าต้องกลับนำมาแก้ไขงาน ซึ่งงานนี้ได้ทำการปรับปรุงมาแล้วค่ะ
099 อินทุอร
แบบแรกเป็น ไฟล์ video ค่ะ แสดงให้เป็น transition ได้ชัดเจนกว่าแต่ไฟล์มันเล่นเร็วไปหน่อยค่ะ
แบบที่สอง จะคลิกเลื่อนหน้าได้ เผื่ออาจารย์จะดูข้อมูลเป็นหน้าๆค่ะแต่มันเพี้ยนๆ นิดหน่อย หลายตรงเหมือนจะคลิกได้แต่คลิกไม่ได้Six Thinking Hats
- วางโครงการ กำหนดสิ่งที่ต้องการทำ และกำหนด mood board
- ทำความเข้าใจหนังสือ six thinking hats ของ edward de bono เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ไม่ผิดไม่เพี้ยน
- กำหนด mood & tone ของ ตามลักษณะคาแรคเตอร์ ของหมวกทั้งหกใบ
- หา reference
- กำหนดคนที่ต้องการจะถ่ายรูปเพื่อใช้สื่อสาร คาแรคเตอร์ทั้งหก
- ลองถ่ายภาพไว้คร่าว และนำมาเทียบกับ moodboard ให้ไปด้วยกัน
- กำหนดเนื้อหาที่ต้องการใส่ และภาพที่ต้องถ่ายเพื่อนำมาใช้
- ทดลองทางเปลือก โปรแกรมต่างๆ ไปด้วย
- กำหนดแผงผังของ interactive และองค์ประกอบต่างๆ
- ถ่ายภาพและนำภาพที่ได้มาแต่งตามมู้ดบอร์ด
- วางรูปแบบ
- ทำรูปแบบ presentation ของ interactive ลงบน keynote
- ตรวจ
- ปรับปรุงแก้ไข
- ขาดการวางแผน วางกำหนดการณ์ แต่แรก ทำให้เมื่อถึงเวลาที่จะนัดเพื่อนถ่ายภาพ เป็นช่วงที่งานเริ่มเยอะ ทำให้หาเวลาตรงกันได้ลำบาก และเกรงใจเพื่อนด้วย
- ปัญหาด้านการจัดแสง ต้องใช้ทักษะในการจัดแสงมากพอสมควรเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ
- การรักษาผลงานให้ตรงตาม mood board ซึ่งบางครั้ง เพื่อให้ผลงานสื่อสารมากขึ้น ก็อาจจะตรงยอมปรับ mood&tone ของงานตามความเหมาะสม
- การทำinteractive มีปัจจัยหลายอย่างกว่าที่คิดไว้
- กำหนด scope งานไว้แคบ ทำให้รู้สึกว่า ต่อยอด หรือทดลองความคิดใหม่ๆ เข้าไปไม่ได้มาก
- พึ่งทราบว่าเวลาอัพโหลดวิดีโอลงเซิร์ฟเว่อร์ แล้วต้องรอให้มัน convert อีก สองชั่วโมง
- การสื่อสารคาแรคเตอร์ของบุคคล ด้วยสีสรร สีหน้า และท่าทาง
- การรีทัชภาพโดยใช้สีเข้ามามีส่วนผสมหลัก
- การถ่ายภาพบุคคล ให้ออกมามีคาแรกเตอร์ที่ต่างรูปแบบกันออกไป
- เรียนรู้ลักษณะ interface ที่ดีและไม่ดี
- ความรู้ที่ได้จากการศึกษา ทฤษฎีการคิด six thinking hats
- เมื่อได้ทำโครงการนี้แล้ว อย่างน้อยก็รู้สึกว่า สามารถทำให้เข้าใจคร่าวๆ ได้ง่ายและเร็วขึ้น
- การสื่อความ ออกมาในรูปแบบของรูปภาพ
- สื่อสาร content
- การจัดเลย์เอาท์
- ได้จับ keynote เป็นครั้งแรก
090 WALAIRAT
สิ่งที่ได้
1. ได้เรียนรู้ประวัติของคนที่เรานำมาทำได้รู้ถึงสำเร็จ และทำยังไงถึงได้มาซึ่งความสำเร็จ
2. ได้เรียนรู้วิธีการต่อลาย
3. ได้ค้นหาสไตล์ ลายเส็นของการวาดภาพประกอบ
อุปสรรค ปัญหา
1. ไม่มีการวางแผนงาน
2. ไม่รุ้จักใช้เวลาอย่างมีค่า
3. การที่จะวาด หรือการที่จะทำให้คนรู้ว่า ศิลปินคนนั้นเป็นใครโดยที่ไม่มีน่า เขาคนนั้นอยู่เป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากบางคนก็ไม่ได้ชื่นชอบโดยส่วนตัวนั้นก็จะลำบากในการมอง
4. การต่อลายไม่ค่อยจะตรงกัน ทั้งๆที่วัดเป็นอย่างดีแล้ว
054 เกษมพันธ์
สำหรับการออกแบบExperimental film ชิ้นนี้มีปัญหาเยอะมาก ทั้งเรื่องคิวถ่าย สถานที่ถ่ายทำ คิวนักแสดง แสง แต่ก็ออกมาได้เป็นคล้ายกับตัวอย่างหนัง ที่ได้ร่างสติรี่บอร์ดไว้ ถึงอาจจะไม่ได้ครบหมดแต่ก็ได้เทคนิคการจัดแสงใหม่ๆ แล้วรู้การวางระบบเรื่องเวลามากขึ้น เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยคนอื่นช่วยในด้านการแสดง
ขั้นตอนการทำงาน
ร่างสตอรี่บอร์ด
คัดเลือกนักแสดง
ศึกษาวิธีการจัดแสงแบบแสงจัดๆ
เริ่มการถ่ายทำ
ใส่เอฟเฟก
ตัดต่อ
ใส่เสียง
3. ฝึกฝนการทำmotion graphicขึ้นบ้าง
4. ได้สนองตัณหาของตัวเองในการทำหนัง
ขอขอบคุณ
วิว ที่สละเวลามาเป็นนางเอกเพียงคนเดียวในเรื่อง
น้ำหอม ที่ช่วยถือไฟเป็นเวลาแสนนาน
ฮิม ที่ช่วยถือไฟหนึ่งฉาก กูส่งงานให้มึงแล้วนะ
นุ ที่ช่วยถือไฟอีกหนึ่งฉาก
พี่ที่ส่งพิษซ่า ที่ช่วยไปตามคนมาเปิดตึก เพราะพวกเราถูกล็อกขังไว้ในตึก ออกไม่ได้ในวันถ่าย
พี่ต๊อด พี่ไมค์ เป็นคนมาเปิดตึก ขณะเล่นบาส
ขอบคุณ อาจารย์อาวินที่ไม่เคยด่าผมเลย
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนด้วยครับแบบไม่มีเหตุผล